วันนี้เรามีบทความดีๆ จาก อ.ติว (สุรยศ) มาฝาก เป็นเรื่องที่ผู้ที่ตั้งใจจะเดินเข้ามาในสายอาชีพนักศิลปะการแต่งหน้า (Make Up Artist) ควรจะได้อ่านเพื่อที่จะเตรียมตัวเป็นนักศิลปะการแต่งหน้ามือโปรในอนาคต จากการสำรวจผู้เรียนแต่งหน้าทั้งก่อนและหลังเรียน (เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนฯ) ทำให้เรารับทราบปัญหาของผู้เรียนศิลปะการแต่งหน้าหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของผู้เรียนหน้าใหม่ที่พยายามหาโรงเรียนที่ใช่มานาน (เราได้ทราบเหตุผลว่าคนส่วนใหญ่ต้องการและไม่ต้องการอะไรจากโรงเรียนสอนศิลปะการแต่งหน้า) ปัญหาของผู้เรียนที่เป็นมืออาชีพในด้านการแต่งหน้าอยู่แล้วและต้องการที่จะอัพเดทตัวเองด้วยวิชาการที่ทันสมัย ปัญหาของผู้ที่ต้องการนำความรู้ทางด้านการแต่งหน้าไปใช้ต่อยอดในอาชีพด้านอื่นๆ ฯลฯ อย่างไรก็ตามมีปัญหาสำคัญที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้เป็นอันดับแรก คือ ปัญหาของผู้เรียนจำนวนมากที่เคยเรียนแต่งหน้าแบบจริงจังมาก่อนแล้วแต่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพและรู้สึกว่าตัวเองยังไม่สามารถแต่งหน้าได้อย่างที่คาดหวังไว้ รวมทั้งรู้สึกว่ายังไม่มีความรู้ในด้านทฤษฎีที่เพียงพอต่อการก้าวไปสู่ความเป็นนักศิลปะการแต่งหน้ามืออาชีพ
พอดีผมเพิ่งจะได้อ่านคำแนะนำของคุณ Mikala Ewald ซึ่งเป็น Make Up Artist อิสระท่านหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา เธอได้เขียนแนะนำถึง 5 ขั้นตอนสำคัญในการก้าวไปสู่การเป็น “นักศิลปะการแต่งหน้า” มืออาชีพ ซึ่งผมเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังต้องการจะเริ่มต้นในสายการอาชีพนี้ ผมได้ลองแปลเป็นภาษาไทยเพื่อใช้เป็นข้อมูลให้กับผู้สนใจ (แต่มีบางจุดที่อาจจะไม่ตรงกับในประเทศไทย เช่น การที่ผู้ให้บริการบางประเภทต้องมีใบอนุญาต ฯลฯ แต่รู้ไว้ใช่ว่านะครับ) ลองอ่านดูแล้วจะรู้ว่าคุณควรจะต้องทำและเตรียมอะไรบ้างในการเริ่มต้น
5 ขั้นตอนสำคัญในการก้าวไปสู่การเป็น “นักศิลปะการแต่งหน้า”
ถ้าคุณอยากก้าวไปเป็นนักศิลปะการแต่งหน้ามืออาชีพแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ไหนดี? เราได้รวบรวมขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาตนเองเพื่อเป็นนักศิลปะการแต่งหน้ามืออาชีพเอาไว้ที่นี่แล้ว
ขั้นที่ 1: เรียนรู้วิชา
วันนี้การศึกษานับเป็นหัวใจสำคัญของทุกวิชาชีพสำหรับการทำงานแบบมืออาชีพ และอาชีพนักศิลปะการแต่งหน้า (Make Up Artist) ก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้น คนทั่วไปอาจจะไม่เคยทราบว่าในการเป็นนักศิลปะการแต่งหน้ามืออาชีพนั้นจำเป็นจะต้องใช้ทักษะและข้อมูลความรู้ต่างๆ มากน้อยแค่ไหน – งานศิลปะแบบนี้ต้องการมากกว่ากระเป๋าเครื่องสำอางและแปรงแต่งหน้า เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเป็นนักศิลปะการแต่งหน้า คุณจำเป็นจะต้องมีใจรักและหลงใหลในงานศิลปะ ในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับศิลปะการแต่งหน้านั้นการแข่งขันสูงมากและโดยทั่วไปจะต้องใช้เวลา พลัง และการบริการสังคมอย่างมากในช่วงเริ่มต้น ก่อนที่จะตัดสินใจก้าวไปสู่วิชาชีพนี้ในระดับอาชีพ คุณจำเป็นที่จะต้องลองสำรวจและตัดสินใจว่าคุณเต็มใจที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อความสำเร็จในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันนี้หรือไม่
เมื่อตัดสินใจแล้วที่จะทุ่มเทมุ่งมั่นในการเป็นนักศิลปะการแต่งหน้ามืออาชีพ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเลือกโรงเรียนกันแล้ว การเรียนเพื่อเป็นนักศิลปะการแต่งหน้านั้นมีมากมายหลายรูปแบบ คุณอาจจะเข้าเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะการแต่งหน้าจริงๆ คุณอาจจะเลือกที่จะสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเกี่ยวกับความงาม (Esthetic License ทางด้าน การแต่งหน้า การดูแลผิวและการทำทรีตเม้นท์ การกำจัดขน) หรือคุณอาจจะตัดสินใจสอบใบอนุญาตทางด้านเครื่องสำอางวิทยา (Cosmetology License) ซึ่งอาจรวมถึงการฝึกอบรมทักษะเรื่องต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วและทักษะการทำผม ตัดผม และทำสีผมอีกด้วย ก่อนจะทำการตัดสินใจครั้งสุดท้ายคุณควรจะศึกษากฏหมายและกฏระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพนักศิลปะการแต่งหน้าในพื้นที่ๆ คุณตั้งใจจะไปทำงานด้วย* (คุณอาจจะต้องมีใบอนุญาตเพื่อที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ บนผิวผู้อื่น) นอกจากนี้คุณควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนหลายๆ แห่งเพื่อที่จะเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณ โรงเรียนสอนแต่งหน้าแต่ละแห่งอาจจะเน้นในบางเรื่องหรือบางทักษะวิชาชีพที่แตกต่างกัน คุณต้องมั่นใจว่าคุณจะได้ทักษะที่คุณต้องการเพื่อไปสู่เป้าหมายที่คุณตั้งไว้
ข้างล่างนี้จะเป็นรายการของการศึกษาที่นักศิลปะการแต่งหน้าในอนาคตควรจะต้องเรียนรู้สำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกโรงเรียน
ทฤษฎีสี (Colour Theory) / การสร้างโครงและกรอบใบหน้า (Contouring) / โครงสร้างใบหน้าและรูปหน้า (Face Shapes and Structures) / สุขอนามัย (Sanitation) / การผสมและเกลี่ย (Blending) / อุปกรณ์ (แปรงแต่งหน้าและอุปกรณ์สิ้นเปลือง) / ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ / ทักษะการบริการลูกค้า / การตลาด / การเป็นเจ้าของธุรกิจและการปฏิบัติการ
ขั้นที่ 2: สะสมเครื่องมือ
นักศิลปะการแต่งหน้าทุกคนจะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับประกอบวิชาชีพและให้บริการ ต่อไปนี้คือรายการของสิ่งที่ควรจะต้องมี
ของพื้นฐานที่ต้องมี: ทัศนคติเชิงบวก / รองพื้น / คอนซีลเลอร์ / แป้งฝุ่น / บลัช / บรอนเซอร์ / อายไลเนอร์ / มาสคาร่า / สีเขียนคิ้ว / ลิปไลเนอร์ / ลิปสติก / ลิปกลอส / ลิปบาล์ม / ขนตาปลอม / กาวติดขนตา / ครีมล้างหน้าและเมคอัพรีมูฟเวอร์ / มอยส์เจอไรเซอร์ / ไพรเมอร์ / ชุดแปรงแต่งหน้าสำหรับโปร / น้ำยาล้างทำความสะอาดแปรง / ที่ดัดขนตา / อุปกรณ์ใช้ลงสีแบบใช้แล้วทิ้ง / ฟองน้ำแต่งหน้า / สำลี / กระดาษทิชชู / กระดาษเปียก / ที่คาดผม / กิ๊บติดผม / ผ้าคลุมกันเสื้อเปื้อน / จานผสมสี / พายผสมสี / ปากคีบ / กรรไกร / หมากฝรั่งหรือมินต์ดับกลิ่นปาก / นามบัตร และของพิเศษที่ต้องมี: เครื่องสำอางพิเศษสำหรับเทคนิคพิเศษหรือละครเวที (สีสำหรับบาดแผล / เลือดเทียม / ลาเท็กซ์เหลว / วิก / ฯลฯ) / เครื่องสำอางสำหรับแอร์บรัชและเครื่องพ่นแอร์บรัช) / เก้าอี้พับ / อุปกรณ์ตกแต่ง เช่น ขนนก เครื่องประดับ กากเพชร ฯลฯ
ขั้นที่ 3: สร้างเสริมทักษะ
นักศิลปะการแต่งหน้าที่มีฝีมือโดดเด่นจะต้องมีชั่วโมงบินในการแต่งหน้าสูง – ฝึกฝน ฝึกฝน ฝึกฝน! ทดลองทั้งกับตัวเองและคนอื่นเพื่อให้รู้ว่าอะไรเวิร์คหรือไม่เวิร์ค คุณต้องฝึกแต่งหน้าหลากหลายรูปแบบกับหลากหลายรูปหน้าและผิวหน้าเพื่อที่จะเตรียมตัวเองให้พร้อมที่จะเจอโจทย์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เสนอตัวที่จะแต่งหน้าให้ฟรีกับคนรอบข้างที่ยินดีให้คุณได้ฝึกฝนการแต่งหน้าหลายๆ สไตล์บนใบหน้าของพวกเขา ทำตัวให้ว่างในการติดตามนักศิลปะการแต่งหน้ามืออาชีพคนอื่นๆ เพื่อไปเป็นผู้ช่วยฝึกงานในการแต่งหน้าจริง อาจจะเริ่มด้วยการล้างแปรง จัดเตรียมสถานที่ เสิร์ฟกาแฟ ช่วยหยิบจับอุปกรณ์ ช่วยแต่งหน้าตามสมควร ฯลฯ การติดตามไปฝึกงานแบบนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้เคล็ดลับ และเทคนิค รวมถึงจะได้เห็นว่าลูกค้าคาดหวังอะไรจากนักศิลปะการแต่งหน้าในชีวิตจริง หาความรู้อย่างต่อเนื่องด้วยการอ่านหนังสือที่เขียนโดยนักศิลปะการแต่งหน้า ลองหาวิดีโอการสอนออนไลน์ (Youtube เป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยม) และเรียนรู้ต่อไปอย่าหยุดเพื่อสร้างเสริมทักษะพื้นฐานที่คุณได้เรียนเบื้องต้นมาจากโรงเรียนก่อนหน้านี้ ในช่วงแรกนี้คุณอาจจะต้องทำงานโดยไม่มีค่าตอบแทน แต่คุณจะได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าเป็นการตอบแทน คุณยังจะได้สะสมรูปภาพผลงานที่สามารถนำเอามาทำแฟ้มผลงาน (Portfolio) ของตัวคุณเอง
ขั้นที่ 4: เลือกจุดขายของตนเอง
อาชีพนักศิลปะการแต่งหน้ามีโอกาสให้คุณเลือกมากมาย ระหว่างขั้นที่ 1 และ 3 คุณจะต้องพยายามหาประสบการณ์ที่หลากหลายให้มากที่สุดเพื่อที่คุณจะได้นำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือก “สาขา” ที่คุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ คุณต้องหาจุดแข็งและจุดอ่อนให้เจอก่อนที่จะพบเส้นทางที่ดีที่สุดที่คุณจะก้าวเดินไป ต่อไปนี้เป็นรายการที่ช่วยให้คุณเลือกการประกอบอาชีพที่เหมาะกับคุณที่สุด: นักศิลปะการแต่งหน้าอิสระ (Freelance) ที่อาจจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องต่อไปนี้ การแต่งงาน / การถ่ายภาพนิ่ง / งานโฆษณาหรืองานพิมพ์ / โทรทัศน์ / ภาพยนตร์ / เทคนิคพิเศษ / การเปลี่ยนบุคลิก / การสอน / นักศิลปะการแต่งหน้าประจำเคาน์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอาง / ละครเวที / การแก้ไขและการพรางจุดบกพร่อง / ซาลอนและสปา / แฟชั่นรันเวย์ / การรับปริญญาและอีเว้นท์ / นักศิลปะการแต่งหน้าและเทรนเนอร์ของแบรนด์เครื่องสำอาง
ขั้นที่ 5: ทำการตลาดตนเอง
เมื่อคุณพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่ทั้งด้านทักษะและขั้นต่างๆ ตั้งแต่ 1 ถึง 4 แล้ว สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำคือการทำการตลาดให้กับตนเองโดยเน้นทักษะและบริการ คุณต้องเตรียมพร้อมที่จะโปรโมตวิชาชีพนักศิลปะการแต่งหน้าของตัวคุณเองตลอดเวลาโดยเตรียมประวัติการทำงาน นามบัตร และแฟ้มผลงาน ให้พร้อมอยู่เสมอ นามบัตรควรพิมพ์ชื่อของคุณเองพร้อมโลโก้ (ถ้ามี) นอกเหนือจากรูปภาพผลงานการแต่งหน้าของคุณ แล้วอย่าลืมให้นามบัตรกับคนที่คุณได้พบปะโดยเฉพาะผู้ที่แสดงความสนใจในงานของคุณ แลกนามบัตรกับธุรกิจใดๆ ที่สามารถแนะนำลูกค้าให้กับคุณได้ (เช่น ถ้าคุณรับงานแต่งหน้าเจ้าสาวก็ทิ้งนามบัตรไว้กับร้านขายชุดวิวาห์) อย่าลืมว่านามบัตรของคุณต้องมีข้อมูลการติดต่อที่อัพเดทที่สุดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรหรืออีเมล์…คุณต้องแน่ใจว่าใครก็ตามที่สนใจจะต้องสามารถติดต่อคุณได้ง่ายที่สุด
พยายามพัฒนาประวัติการทำงานของคุณอยู่เสมอเพราะคุณไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ว่าโอกาสทางการทำงานจะวิ่งเข้าชนเมื่อไหร่ ประวัติการทำงานของคุณควรจะต้องมีประวัติการศึกษาทางด้านศิลปะการแต่งหน้าของคุณพร้อมด้วยประสบการณ์การทำงานและกิจกรรมเกี่ยวกับการแต่งหน้าที่คุณเคยทำมา อัพเดทประวัติการทำงานของคุณบ่อยๆ จะได้มั่นใจว่าคุณบอกให้ทุกคนได้ทราบถึงความสำเร็จล่าสุดของคุณ
นับจากวันแรกที่คุณเริ่มเรียนศิลปะการแต่งหน้าและทำเป็นอาชีพ คุณจะต้องเริ่มเก็บสะสม Portfolio ผลงานการแต่งหน้าของคุณด้วย พยายามทำงานร่วมกับช่างภาพและเจ้าสาวเพื่อที่จะได้ภาพผลงานแบบมือโปรโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเสียค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด การมีรูปที่หลากหลายจะสามารถช่วยโปรโมตฝีมือของคุณและแสดงให้ลูกต้าในอนาคตของคุณเห็นถึงความสามารถของคุณได้ การใช้ภาพก่อนและหลังแต่งหน้า (Before & After) จะช่วยทำให้ลูกค้าเห็นความสามารถในการแต่งหน้าของคุณได้ชัดเจนมากขึ้น ภาพก่อนและหลังแต่งหน้าจะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพิสูจน์ว่าคุณมีทักษะที่พร้อมสำหรับการเป็นนักศิลปะการแต่งหน้า
ตอนนี้คุณก็มีข้อมูลที่จำเป็นในการเป็นนักศิลปะการแต่งหน้ามืออาชีพ…ได้เวลาแล้วที่คุณจะก้าวออกไป…เลือกโรงเรียน…เริ่มต้น…ขอให้โชคดี!
ชอบการแต่งหน้า สนใจที่จะเรียนการแต่งหน้า
สนใจการแต่งหน้าแบบspecial effectในภาพยนตร์มากเลยค่ะ แต่ทั้งค่าเรียนและค่าอุปกรณ์สูงมาก แถมยังหารายได้ค่อนข้างยาก ส่วนมากคนจะแต่งแบบสวยๆบ่อยกว่า
การเรียนการสอนในคอร์สนี้ส่วนใหญ่วัสดุอุปกรณ์จะนำเข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้นครับ แต่อย่างไรก็ตามค่าลงทะเบียนเรียนเมื่อเทียบกับในต่างประเทศจะพบว่าสูงกว่าประมาณ 2-3 เท่าตัวครับ